โปรแกรมตรวจเช็ค หลังฉีดฟิลเลอร์ :
"Filler Check-up"

ทำไม? หลังเคยฉีดฟิลเลอร์ไปแล้ว ควรต้องได้รับการตรวจเช็คเป็นประจำ

By Dr. Chantawat Kasemnet MD. ( หมออาร์ต)

ท่านทราบหรือไม่!! หลังจากเคยฉีดฟิลเลอร์ไป ควรได้รับการตรวจเช็คประจำทุกปี
เหมือนกับการตรวจสุขภาพร่างกาย..

เพื่อแก้ไข ฉีดสลายฟิลเลอร์ ได้อย่างตรงจุด
หลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง
เพื่อสแกนหาสิ่งผิดปกติที่ยังไม่เริ่มแสดงอาการ

ซึ่งผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์ที่พบได้บ่อย เช่น

  • ฟิลเลอร์จับตัวกันเป็นก้อน ผิวไม่เรียบ ดูเป็นคลื่น
  • ฟิลเลอร์ไหล เคลื่อนย้ายตำแหน่ง
  • มีอาการอักเสบ บวมแดง ปวด ผังผืดแข็ง
  • รูปหน้าผิดธรรมชาติ จากการฉีดถมหลายๆ cc , เติมเต็มมากไปจนเกินพอดี
  • การแสดงสีหน้าผิดปกติ จากฟิลเลอร์ไปรบกวนการทำงานของกล้ามเนื้อ
  • หน้าบวม โดยเฉพาะเวลาตื่นนอนตอนเช้า หรือทานอาหารเค็ม รสจัด ผงชูรส 
  • ผิวหนังหย่อนคล้อยมากขึ้น เพราะถูกยืด จากการรับน้ำหนักของฟิลเลอร์ที่มากเกินไป
  • สีผิวใต้ตาคล้ำดำกว่าเดิมหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เนื่องจากฟิลเลอร์กองรวมกันอยู่ชั้นตื้น 

Dr. Chantawat Kasemnet MD. (หมออาร์ต)

คนเคยฉีดฟิลเลอร์ ต้องรู้ !!

ปัญหา และผลข้างเคียงที่พบบ่อยหลังจากการฉีดฟิลเลอร์

"ฟิลเลอร์เป็นก้อน ผิวเป็นคลื่น"

  • เกิดจากการเลือกใช้เนื้อฟิลเลอร์ที่แข็งจนเกินไปโดยเฉพาะบริเวณที่ผิวบาง
  • หรือเทคนิคการฉีดกระจายยาทำได้ไม่สม่ำเสมอ
  • โดยเฉพาะบริเวณร่องน้ำตา ถ้าหากแพทย์ใช้ฟิลเลอร์ฉีดในชั้นตื้นเข้าไปจนร่องเต็ม หลังฉีดทันที ผลลัพธ์จะดูสวยเนียนเพอร์เฟคมาก
  • แต่หลังจากเวลาผ่านไป 3-4 เดือน จะเริ่มรวมตัวกันเป็นก้อนใสนูนให้เห็นอย่างชัดเจนโดยเฉพาะเวลายิ้ม

"ฟิลเลอร์ไหล เคลื่อนย้ายตำแหน่ง"

  • ในฟิลเลอร์ชนิดที่ได้มาตรฐาน ผ่าน อย. ก็สามารถเกิดการใหลได้ แต่จะน้อยมากๆ
  • โดยมักจะเกิดจากการขยับของกล้ามเนื้อบริเวณนั้นมากๆ จนฟิลเลอร์ใหลมารวมกัน
  • เช่น บริเวณใต้ตา ริมฝีปาก

"ฟิลเลอร์ปลอม ซิลิโคนเหลว"

  • ในเคสสารซิลิโคนเหลว ก้อนจะเกิดการใหล เคลื่อนย้ายตำแหน่งได้อย่างชัดเจน
  • โดยมักจะใหลลงมากองบริเวณส่วนล่างของใบหน้า ตามแรงโน้มถ่วงโลก
  • มีประวัติฉีดมานานมากๆ เกิน 10 ปีขึ้นไป จนถึงหลายสิบปี

"มีอาการอักเสบ บวมแดง"

  • มักพบในฟิลเลอร์ปลอม ซิลิโคนเหลว
  • เนื่องจากไม่สามารถสลายได้ และมีการกระตุ้นการอักเสบเรื้อรัง
  • ทำให้เกิดผังผืดแข็ง อักเสบ บวม แดง ปวด
  • อาจมีอาการเป็นพักๆ เป็นๆหายๆ ตามสุขภาพร่างกายขณะนั้น

"รูปหน้าผิดธรรมชาติ"

  • เกิดจากการเน้นขายปริมาณฟิลเลอร์มากจนเกินความจำเป็น
  • และการฉีดถมหลายๆ cc ในบริเวณเดียวกัน
  • โดยไม่คำนึงถึงสัดส่วนที่สวยงามตามธรรมชาติ
  • ฉีดเติมเต็มมากไปจนเกินพอดี
  • ทำให้ใบหน้าสูญเสียเอกลักษณ์ตัวตนไป

"การแสดงสีหน้าผิดปกติ"

  • พบบ่อยในการฉีดฟิลเลอร์ถมบริเวณร่องแก้มให้เต็ม
  • จนเกิดการกดการทำงานของกล้ามเนื้อ ที่ใช้ยกเนื้อริมฝีปากบน เหลือไว้แต่กล้ามเนื้อยกมุมปาก
  • ทำให้เวลายิ้มดูไม่จริงใจ ยิ้มดูเสแสร้ง ยิ้มแบบโจ๊กเกอร์ในภาพยนต์

"ผิวหนังหย่อนคล้อยมากขึ้น เพราะถูกยืด"

  • มักพบบริเวณใต้ตา หน้าแก้ม แก้มส้ม
  • เกิดหลังจากพยายามฉีดเติมเต็มฟิลเลอร์เข้าไปมากๆ
  • หลังจากเวลาผ่านไป จะพบผิดใต้ตาหย่อน บางลง ใสเป็นวุ้นเจล
  • หรือเกิดหน้าแก้มหย่อนตกลงจากน้ำหนักถ่วงของฟิลเลอร์ จนกดให้ร่องแก้มดูลึกขึ้นแย่ยิ่งกว่าตอนก่อนฉีด

"สีผิวใต้ตาคล้ำดำกว่าเดิม"

  • เนื่องจาก บริเวณใต้ตามีผิวหนังที่บางมากที่สุดในร่างกาย
  • รวมถึงมีเส้นเลือดดำขนาดใหญ่และกล้ามเนื้อรอบดวงตาอยู่ข้างใต้
  • การฉีดฟิลเลอร์ที่วางรวมกันเป็นแอ่ง หวังเพื่อแก้ร่องน้ำตา
  • ทำให้เกิดการสะท้อนแสงผิดปกติเป็นสีคล้ำของกล้ามเนื้อและเส้นเลือดดำข้างใต้ขึ้นมาแทน
  • ทำให้ใต้ตาดูเป็นสีเขียว คล้ำ ลึก ดูโทรม แย่กว่าเดิม 

"หน้าบวม โดยเฉพาะเวลาตื่นนอนตอนเช้า"

  • บนใบหน้าของเรามีอีกหน้าที่สำคัญอันนึง นั่นคือ
  • เป็นเส้นทางระบายน้ำเหลืงที่ออกมาจากสมองและดวงตา
  • ซึ่งบางบริเวณโดยเฉพาะใต้ตาโหนกแก้ม มักจะเกิดการอุดตันท่อน้ำเหลืองได้ง่าย
  • เนื่องจากท่อน้ำเหลืองบริเวณนี้ มีความแคบเป็นพิเศษเป็นคอขวด
  • การฉีดฟิลเลอร์ผิดชั้นผิดตำแหน่งในบริเวณนี้จะทำให้เกิดการอุดตันท่อทางเดินน้ำเหลือง
  • เกิดอาการหน้าบวม ตาบวม โดยจะเป็นมากตอนตื่นนอน หลังกินอาการเค็ม มีผงชูรสเยอะ มีปริมาณโซเดียมสูง
  • และอาการบวมจะดีขึ้นในตอนเย็นหลังยืนตรงมาทั้งวัน

"แม้จะยังไม่มีความปกติใดๆ ก็ควรตรวจ"

  • ซึ่งอาการต่างๆที่กล่าวมานี้ อาจตรวจพบได้
  • เพียงปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์และชำนาญด้านฟิลเลอร์
  • รวมถึงการใช้เครื่องมือที่มีทันสมัยอย่างเช่น เครื่องอัลตราซาวน์ความละเอียดสูง
  • ซึ่งสามารถมองเห็น ให้การวินิจฉัยภาวะผิดปกติต่างๆจากฟิลเลอร์ได้อะเอียด แม่นยำ และตั้งแต่ระยะยังไม่มีอาการได้
  • ด้วยมาตรฐานการแพทย์ในปัจจุบันในต่างประเทศ เริ่มแนะนำให้ตรวจทั้งก่อนฉีด ใช้ช่วยขณะฉีด และตรวจติดตามหลังฉีดฟิลเลอร์

Dr. Chantawat Kasemnet MD. (หมออาร์ต)

โปรแกรมตรวจเช็คหลังฉีดฟิลเลอร์

* Very High Frequency Ultrasonography

VHUS คืออะไร?

เทคโนโลยี VHUS * : คือการตรวจอัลตราซาวน์เพื่อสแกนหาฟิลเลอร์ที่อยู่ใต้ผิว แบบใหม่ล่าสุด ด้วยการใช้คลื่นเสียงชนิดที่ให้ภาพมีความละเอียดสูงเป็นพิเศษ
โดยมีความถี่สูงกว่าอัลตราซาวน์แบบเก่าถึง 5 เท่า

"โปรแกรมอัลตราซาวน์ ที่ออกแบบ และพัฒนามา
เพื่อใช้ตรวจหารายละเอียดของฟิลเลอร์ บนใบหน้าโดยเฉพาะ"

ซึ่งฟิลเลอร์ที่ถูกฉีดเข้าไปแล้ว มีขนาดเล็ก และมีรายละเอียดมาก
ทำให้ก่อนหน้านี้​ ไม่เคยสามารถตรวจเห็นได้มาก่อน ด้วยการใช้เทคโนโลยีแบบเก่า

  • สามารถแยกชนิดของฟิลเลอร์ประเภทต่างๆได้ ว่าผ่าน อย.สลายได้ หรือฟิลเลอร์ปลอมอยู่ถาวร
  • สามารถบอกตำแหน่ง ขนาด และชั้นที่ฉีดฟิลเลอร์ได้อย่างแม่นยำระดับมิลลิเมตร มองเห็นเส้นเลือดเส้นประสาทบริเวณใกล้เคียงที่เสี่ยงต่ออันตราย
  • บอกการอักเสบ ผังผืด การเคลื่อนย้ายตำแหน่งของฟิลเลอร์ได้
  • เดิมหากฉีดสลายก้อนฟิลเลอร์จะไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้ฟิลเลอร์ข้างเคียงยุบหายไปด้วย เกิดการสิ้นเปลืองต้องมาฉีดแก้ซ้ำ แต่วิธีนี้จะทำให้แพทย์ฉีดยาสลายอย่างเล็งผลได้เฉพาะจุดสูงกว่ามาก

รู้จักกับ หมออาร์ต
นายแพทย์ฉันทวัฒน์ เกษมเนตร

จบการศึกษาแพทยศาสตร์บัณฑิต จากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อปี 2551 อายุ 42 ปี

ปัจจุบันเป็นอาจารย์พิเศษสอนหลักสูตร "ultrasound in aesthetic medicine" ของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กทม. โดยจัดการสอนเป็นประจำทุกปี ปีละสองรุ่น และยังได้รับเชิญไปสอนให้กับแพทย์ที่กำลังศึกษาปริญญาโทเฉพาะด้านผิวหนังในอีกหลายมหาวิทยาลัยอีกด้วย

หมออาร์ตยังเป็นแพทย์คนไทยเพียงคนเดียว ที่ได้รับการยอมรับ และเชิญให้ร่วมเขียนตำราทางการแพทย์ ร่วมกับอาจารย์แพทย์ที่มีชื่อเสียงและมีผลงานวิจัยตีพิมพ์ในระดับแนวหน้าของโลกรวม 18 ท่าน จาก 11 ประเทศ เป็นตำราภาษาอังกฤษเกี่ยวกับเรื่องการใช้เทคโนโลยีอัลตราซาวน์ความละเอียดสูง มาใช้ประโยชน์ในวงการความงาม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุดให้กับคนไข้ที่มารับบริการ ซึ่งกำลังเป็นมาตรฐานใหม่ที่เริ่มเข้ามาแทนที่เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์หรือหัตถการอื่นแบบเก่าที่ใช้การคาดเดาในการฉีด โดยไม่มีการมองเห็นภาพจากในจอแบบการทำโดยใช้เทคโนโลยีอัลตราซาวน์ช่วย

17.png

หมออาร์ตเป็นอาจารย์สอนการฉีดฟิลเลอร์โดยใช้อัลตราซาวน์เพื่อช่วยเพิ่มความแม่นยำ

จัดงานสอนขึ้นโดยวิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยผู้เรียนเป็นแพทย์ที่กำลังศึกษาปริญญาโท จากหลายประเทศ

ภาพงานสอนหลักสูตร

ULTRASOUND IN AESTHETICS PROCEDURES INTENSIVE COURSE 

เปิดสอนที่ รพ.มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง อโศก กทม. รับแพทย์เข้าเรียนปีละสองรุ่น โดยมีหมออาร์ตเป็นผู้สอนตลอดทั้งหลักสูตร

ผลงานหนังสือวิชาการ

หมออาร์ตได้รับเชิญเป็นทีมผู้ร่วมเขียน ซึ่งเป็นแพทย์ไทยเพียงคนเดียวที่ได้การยอมรับและรับเชิญจากทีมบรรณาธิการในต่างประเทศ ได้รับการตีพิมพ์และจัดจำหน่ายไปทั่วโลก

Art Story Clinic

สิ่งที่ควรให้ความสำคัญที่สุดในการรับบริการด้านความงาม คือ"ความปลอดภัย"

ที่ "อาร์ต สตอรี่ คลินิก" เราเลือกใช้เครื่องมือ ยา และเทคนิคการฉีด ที่เลือกเฟ้นมาแล้วว่ามีข้อมูล งานวิจัยเพียงพอ ที่จะยืนยันผลลัพธ์และความน่าเชื่อถือ ไม่เน้นตามกระแสทางการตลาด

เพราะทุกผลงานการฉีดของหมอในทุกใบหน้า หมอตั้งใจมอบผลลัพธ์ให้เป็นเสมือนงานศิลปะ ที่สะท้อนตัวตน สถานะ และบุคคลิกภาพของผู้รับบริการแต่ละคน

ความไว้ใจได้ของแพทย์และคลินิก นับว่าเป็นสิ่งที่หมอให้ความสำคัญสูงสุดครับ​​

ถ้าท่านมีปัญหาเกี่ยวกับฟิลเลอร์ หรือต้องการฉีดหรือปรับรูปหน้า สามารถลงทะเบียนในแบบฟอร์มเพื่อสอบถามเพิ่มเติม หรือนัดวันเวลาเพื่อเข้ามาปรึกษาแพทย์ และตรวจเพิ่มเติมเพื่อการวินิจฉัยและวางแผนแนวทางแก้ไขร่วมกันครับ

Art Story Clinic เป็นบ้านตกแต่งสไตล์โคโลเนียล ตั้งอยู่ติดถนนสมเด็จเจ้าพระยา
ห่างจากห้าง Icon Siam ประมาณ 800 เมตร มีที่จอดรถในคลินิก

CUSTOM JAVASCRIPT / HTML

โปรดลงทะเบียนเพื่อสอบถามเพิ่มเติม หรือเข้าปรึกษาแพทย์ ฟรี
"โปรแกรม ตรวจเช็คฟิลเลอร์"


Art Story Aesthetic Clinic
บ้านเลขที่ 106 ถนนสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กทม. 10600